ชีวิตของคนยุคใหม่นั้นถือได้ว่าเป็นชีวิตที่สะดวกสบาย เพราะมีวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาช่วยให้การดำเนินชีวิตง่ายมากยิ่งขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และในยุคที่หลาย ๆ คนเริ่มหันมาตระหนักถึงปัญหาโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น บวกกับเรื่องของพลังงานเชื้อเพลิงที่เหลือน้อยลงและมีราคาสูงขึ้น การเลือกใช้สิ่งของที่ช่วยลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด เพื่อเซฟทั้งเงินและเซฟโลกของเรา จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยได้
รถยนต์ไฟฟ้า เป็นนวัตกรรมยานยนต์ยุคใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดปัญหาโลกร้อนและมลภาวะทางอากาศ เพราะในทุกวันนี้โลกของเราได้รับผลกระทบจากรถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงแล้วเกิดกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดมลภาวะทางอากาศมากมาย ทั้งควันพิษ, ฝุ่น PM 2.5 และอีกมากมาย ที่ส่งผลต่อสุขภาพของเรา ด้วยเหตุนี้ รถยนต์ไฟฟ้าจึงได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ขับขี่คนรุ่นใหม่เป็นจำนวนมาก
รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมยานยนต์สำหรับนักขับขี่ยุคใหม่ ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Electric Vehicle (EV) หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อเรียกว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นนวัตกรรมยานยนต์ที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน โดยการทำงานของมันก็คือตัวมอเตอร์รถยนต์จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่กักเก็บพลังงานเอาไว้ ซึ่งรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าจะมีข้อได้เปรียบกว่ารถยนต์ทั่วไปตรงที่จะให้อัตราเร่งที่เร็วแต่เรียบง่าย และยังช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิง อันเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยจุดเด่นที่ตอบโจทย์ได้ว่าเพราะเหตุใดรถยนต์ไฟฟ้าถึงดีกว่า ก็คือ
อัตราเร่งเร็วที่มาพร้อมกับความเงียบ
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าการขับเคลื่อนของรถยนต์ไฟฟ้านั้นมาจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ดึงเอาพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้งาน แตกต่างจากรถยนต์แบบทั่วไปที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง จนเกิดกระบวนการสันดาปและเกิดการเผาไหม้ กระบวนการนี้จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานเสียงดังและก่อให้เกิดควันพิษออกมา แต่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงทำให้เครื่องยนต์มอบอัตราเร่งที่เร็ว แรง ได้ดั่งใจของผู้ขับ ตอบสนองรวดเร็ว พร้อมกับเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยเสียงเงียบ ไม่รบกวนผู้โดยสารในรถยนต์
ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง
ขึ้นชื่อว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้วก็บอกเลยว่าไม่ง้อน้ำมันให้ต้องเปลืองเงินเปลืองเวลาต่อคิวเข้าปั๊มกันเลย เพราะรถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถชาร์ตแบตเตอรี่ได้ง่าย ๆ ที่บ้านของคุณ โดยสามารถชาร์จทิ้งไว้ในช่วงเวลากลางคืน เมื่อเข้าสู่วันใหม่แบตเตอรี่ก็จะอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานพอดี หรือในกรณีที่ต้องการชาร์จแบตนอกสถานที่ ก็มีบริการตู้ชาร์จรถยนต์ที่พร้อมให้บริการตามจุดต่าง ๆ แล้ว ทั่วประเทศ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน และไม่ต้องไปเสียเวลาที่ปั๊มน้ำมัน
ดูแลง่าย ประหยัดค่าซ่อมบำรุงรถยนต์
โครงสร้างของรถยนต์ไฟฟ้าจะต่างจากรถยนต์ทั่วไป มีความซับซ้อนน้อยกว่า และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง แต่ใช้วิธีการซ่อมบำรุงอีกวิธีหนึ่งซึ่งมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า จึงดูแลได้ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย
รถยนต์ไฟฟ้า มีกี่ประเภทให้เลือก?
แท้จริงแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าได้เริ่มต้นพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 แต่ยังไม่เป็นที่นิยมในยุคนั้น จนมาถึงช่วงปัจจุบันที่เรื่องราวของปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นที่สนใจในวงกว้าง นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจึงได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ และได้เริ่มพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นมีถึง 6 ประเภท ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)
เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว จะไม่มีกระบวนการสันดาปของเครื่องยนต์ภายใน ใช้เวลาชาร์จไฟไม่นานก็สามารถใช้งานได้แล้ว
รถยนต์ไฟฟ้าแบบอี-พาวเวอร์ (E-Power)
เป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นโดยนำเอาการทำงานของเครื่องยนต์ในระบบ Hybrid กับระบบ EV มาผสมผสานกัน จะมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปเก็บสะสมไว้ที่แบตเตอรี่ หลังจากนั้นส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ กล่าวคือ ตัวรถยนต์จะสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างมาจากตัวเครื่องยนต์นั่นเอง รถยนต์ไฟฟ้าแบบอี-พาวเวอร์จะมีการเติมน้ำมัน แต่ไม่มีการชาร์จไฟ
รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV)
ขึ้นชื่อว่าไฮบริด ก็ต้องมีการทำงานแบบผสมผสานกัน แต่ยังคง Concept ประหยัดพลังงาน โดยเป็นระบบการทำงานที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงผสมกับพลังงานไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV)
รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดที่มีการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล ทำงานร่วมกับ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้ โดยสามารถใช้พลังงานทั้งจากไฟฟ้าและน้ำมันได้
รถพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell)
รถยนต์ที่มีการนำเอาพลังงานไฮโดรเจนมาดัดแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ กระบวนการทำงานคือส่งไฮโดรเจนและออกซิเจนเข้าไปที่แผงเซลล์เชื้อเพลิง และสร้างพลังงานกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่ หลังจากนั้นกระแสไฟจะถูกส่งไปที่มอเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานในการขับเคลื่อนรถยนต์
รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงาน (Plug-in Electric Vehicle: PEVS)
รถยนต์ที่จะมีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลักอย่างเดียว และใช้วิธีการชาร์จแบตเพื่อชาร์จไฟให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ แยกเป็น 2 แบบได้แก่ แบบ Battery Electric Vehicle (BEV) ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% กับแบบ Fuel Cell Electric Vehicles (FCEV) ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน
โลกยุคใหม่นั้นมีแต่สิ่งที่น่าสนใจมากมาย หากมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี และรู้จักวิธีการนำมาประยุกต์ใช้ ก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันง่ายและสะดวกมากขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมยานยนต์แห่งโลกยุคใหม่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/?fuel_type=4078&quicksearch_order=306,DESC-326,ASC