สินค้าโรงงานอุตสาหกรรม โพสฟรีราคาโปรโมชั่น

หมวดหมู่ทั่วไป => เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี ลงประกาศฟรี กรุงเทพ => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 18 สิงหาคม 2025, 18:29:42 น.

หัวข้อ: หมอออนไลน์: โรคบิด (Dysentery)
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 18 สิงหาคม 2025, 18:29:42 น.
หมอออนไลน์: โรคบิด (Dysentery) (https://doctorathome.com/)

โรคบิด (Dysentery) เป็นโรคติดเชื้อในลำไส้ใหญ่ที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง โดยมีลักษณะเด่นคือการมี มูกเลือดปน ออกมากับอุจจาระ ซึ่งต่างจากอาการท้องเสียทั่วไปที่เป็นน้ำเพียงอย่างเดียว

สาเหตุของโรคบิด
โรคบิดเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักตามสาเหตุของการติดเชื้อ

โรคบิดจากแบคทีเรีย (Bacillary Dysentery): เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Shigella (ชิเกลลา) ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย

โรคบิดจากอะมีบา (Amoebic Dysentery): เกิดจากเชื้ออะมีบา Entamoeba histolytica (เอนตามีบา ฮิสโตไลติกา) ซึ่งเป็นพยาธิชนิดหนึ่ง มักพบในพื้นที่ที่มีสุขอนามัยไม่ดีและแพร่กระจายผ่านอาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเช่นกัน


อาการของโรคบิด

อาการจะเริ่มปรากฏหลังได้รับเชื้อประมาณ 1-3 วัน และมักมีอาการดังนี้

ปวดท้องรุนแรง: มีอาการปวดบิดเป็นพักๆ บริเวณท้องน้อย

ถ่ายเป็นมูกเลือด: มีอุจจาระปนเลือดและมูก ซึ่งเป็นอาการสำคัญที่บ่งบอกว่าเป็นโรคบิด

เบ่งอุจจาระ: รู้สึกปวดเบ่งคล้ายจะถ่ายอุจจาระตลอดเวลา แม้จะไม่มีอุจจาระออกมาแล้ว (Tenesmus)

ไข้และอ่อนเพลีย: อาจมีไข้สูง, อ่อนเพลีย, และรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน


การรักษา

โรคบิดจากแบคทีเรีย: การรักษาหลักคือการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย และการให้สารน้ำทางปากเพื่อทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไปจากการท้องเสีย

โรคบิดจากอะมีบา: แพทย์จะให้ยาต้านเชื้ออะมีบาโดยเฉพาะ

การรักษาด้วยตนเองโดยการซื้อยาปฏิชีวนะมาทานเองอาจไม่ได้ผลและอาจทำให้เชื้อดื้อยาได้ ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง


การป้องกัน

การป้องกันโรคบิดที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัย

ล้างมือให้สะอาด: ล้างมือด้วยสบู่และน้ำทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ

ทานอาหารที่สะอาดและปรุงสุกใหม่: หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุก และอาหารค้างคืน

ดื่มน้ำสะอาด: เลือกดื่มน้ำต้มสุก หรือน้ำดื่มบรรจุขวดที่ได้มาตรฐาน

ดูแลสุขอนามัยในครัวเรือน: ทำความสะอาดห้องน้ำและบริเวณที่มีการปนเปื้อนอย่างสม่ำเสมอ

หากมีอาการท้องเสียรุนแรงโดยเฉพาะเมื่อมีเลือดปน ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมค่ะ